เสพศิลป์อย่างสร้างสรรค์

ส่วนหนึ่งของการจะมีความสุขได้ นั่นก็คือการเลือกในสิ่งที่ตนเองชอบ และปรารถนาจะได้มา...

การได้อ่านในเรื่องราวที่ตนเองสนใจใคร่รู้ หรือเรื่องที่ใจนั้นชอบ ก็นับได้ว่าสร้างอรรถรสทางใจ และให้ความสุขได้เช่นเดียวกัน เทียบเท่ากับความสุขประเภทอื่นๆ

อันด้วยวรรณกรรม และงานเขียนประเภทต่างๆ ล้วนจัดอยู่ในประเภทศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งต้องใช้ความคิด อาจควบรวมเข้ากับจินตนาการของผู้เขียน โดยต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ ถ่ายทอดงานเขียนให้ออกมาเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง

เมื่อเข้าข่ายว่างานเขียนนั้นเป็นศิลปะประเภทหนึ่งด้วยแล้ว ก็ย่อมหมายความถึงว่างานเขียนนั้นไม่มีถูก หรือผิด แต่อาจต้องหันมาใช้ความหมายใหม่ทดแทน อาจจะเป็น

..."ใช่" หรือ "ไม่ใช่"

..."ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ"

..."ควร" หรือ "ไม่ควร"

..."ดี" หรือ "ไม่ดี"

..."ถูกใจ" หรือ "ไม่ถูกใจ"

หรืออาจเป็นคำทดแทนอย่างอื่นก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของงานศิลปะนั้นๆ..

การเสพงานศิลปะทุกแขนง ผู้เสพงานศิลปะย่อมมีสิทธิ์ในความชอบ หรือไม่ชอบงานนั้นๆ ซึ่อถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของแต่ละคน

ทั้งมวลที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ จึงนำมาสู่การบอกกล่าว สำหรับผู้ที่จะเป็นนักอ่านที่ดีต่อไป ว่าสิ่งหนึ่งคือควรเปิดใจ เปิดความรู้สึกให้กว้าง ต่อการเปิดรับสิ่งที่ผู้เขียนจะแสดงออกมาผ่านตัวหนังสือ

รวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์งานศิลปะของผู้อื่นได้นั้น จะต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ที่กรำเชี่ยวมาพอสมควร และการเสนอแนะงานเขียนก็ไม่ต่างกัน พึงควรบอกกล่าวถึงองค์ความรู้ และหลักการนำไปใช้ให้ผู้รังสรรค์งานได้เป็นประโยชน์ต่อไป..

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว จึงจะเรียกว่าเป็นการเสพงานศิลป์อย่างสร้างสรรค์..


ความคิดเห็น


LINE สแควร์

แวะร้านก่อนดีไหม